เมนู

[127] 10. อวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักก-
วิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย

คือ เหตุที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
วิจารและจิตตสมุฏฐานรูป ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.
ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์ วิจาร แสะกฏัตตารูป ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.
[128] 11. อวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกอวิจาร-
ธรรม ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย

คือ เหตุที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และ
จิตตสมุฏฐานรูป ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.
ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สัม-
ปยุตตขันธ์ และกฏัตตารูป ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.

2. อารัมมณปัจจัย


[129] 1. สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกวิจาร-
ธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล กระทำอุโบสถกรรม ครั้นกระทำแล้ว
ย่อมพิจารณากุศลกรรมนั้น บุคคลพิจารณากุศลกรรมที่ตนสั่งสมไว้ในกาลก่อน.
บุคคลออกจากฌานที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรมออกจากมรรค ฯลฯ ออก
จากผล แล้วพิจารณาผล.

พระอริยะทั้งหลาย พิจารณากิเลสที่ละแล้ว, พิจารณากิเลสที่ข่มแล้ว,
รู้กิเลสที่เคยเกิดแล้วในกาลก่อน พิจารณาเห็นขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม
โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง
เพราะปรารภขันธ์นั้น ราคะ ฯลฯ โทมนัสย่อมเกิดขึ้น เพราะปรารภขันธ์ที่เป็น
สวิตักกสวิจารธรรม ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ย่อมเกิดขึ้น.
[130] 2. สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจาร-
มัตตธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล กระทำอุโบสถกรรม แล้วพิจารณา
กุศลกรรมนั้น เพราะปรารภกุศลกรรมนั้น วิตก ย่อมเกิดขึ้น, พิจารณากุศล
กรรมที่ตน ได้สั่งสมไว้ในกาลก่อน ฯลฯ.
บุคคลออกจากฌานที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ฯลฯ ออกจากมรรค
ฯลฯ ออกจากผล แล้วพิจารณาผล เพราะปรารภกุศลนั้น วิตก ย่อมเกิดขึ้น
พระอริยะทั้งหลาย พิจารณากิเลสที่ละแล้ว พิจารณากิเลสที่ข่มแล้ว,
รู้กิเลสที่เคยเกิดแล้วในก่อน, พิจารณาเห็นขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม
โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลิน
ยิ่ง เพราะปรารภขันธ์นั้น วิตก ย่อมเกิดขึ้น, เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นสวิ-
ตักกสวิจารธรรม วิตก ย่อมเกิดขึ้น.
[131] 3. สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกอวิจาร-
ธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ บุคคลย่อมรู้จิต ของบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยจิตที่เป็น
สวิตักกสวิจารธรรม ด้วยเจโตปริยญาณ.
ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ แก่ปุพ-
เพนิวาสานุสสติญาณ แก่ยถากัมมูปคญาณ แก่อนาคตังสญาณ ด้วยอำนาจ
ของอารัมมณปัจจัย.
เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจาร-
ธรรม ย่อมเกิดขึ้น.
[132] 4. สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจาร-
ธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล กระทำอุโบถสกรรม แล้วพิจารณา
กุศลกรรมนั้น เพราะปรารภกุศลกรรมนั้น ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และ
วิตก ย่อมเกิดขึ้น, พิจารณากุศลกรรมที่ตนสั่งสมไว้ในก่อน, ออกจากฌานที่
เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ฯลฯ ออกจากมรรค ฯลฯ ออกจากผล แล้วพิจารณาผล,
เพราะปรารภกุศลนั้น ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก ย่อมเกิดขึ้น.
พระอริยะทั้งหลาย พิจารณากิเลสที่ละแล้ว. พิจารณากิเลสที่ข่ม
แล้ว, รู้กิเลสที่เคยเกิดแล้วในกาลก่อน, พิจารณาเห็นขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจาร-
ธรรม โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา, ย่อมยินดี ย่อม
เพลิดเพลินยิ่ง เพราะปรารภขันธ์นั้น ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ย่อม
เกิดขึ้น.

เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิ-
จารธรรม และวิตก ย่อมเกิดขึ้น.
[133] 5. อวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักก-
วิจารมัตตธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ บุคคลออกจากฌาน ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม ฯลฯ ออก
จากมรรค ฯลฯ ออกจากผล พิจารณาผล เพราะปรารภฌานเป็นต้นนั้น วิตก
ย่อมเกิดขึ้น.
พิจารณาเห็นขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิตก โดยความ
เป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะ
ปรารภขันธ์นั้น วิตก ย่อมเกิดขึ้น.
เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิตก วิตกย่อม
เกิดขึ้น.
[134] 6. อวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิ-
จารธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ บุคคลออกจากฌาน ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม ฯลฯ ออก
จากมรรค ฯลฯ ออกจากผล พิจารณาผล, เพราะปรารภฌานเป็นต้นนั้น ขันธ์
ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ย่อมเกิดขึ้น, พิจารณาเห็นขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจาร-
มัตตธรรม และวิตก โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ย่อม
ยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะปรารภขันธ์นั้น ราคะ ฯลฯ โทมนัส ย่อม
เกิดขึ้น.

เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิตก ขันธ์ที่เป็น
สวิตักกสวิจารธรรม ย่อมเกิดขึ้น ฯลฯ.
[135] 7. อวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักก-
อวิจารธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ บุคคลรู้จิตของบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยจิตที่ไม่มีวิตก มี
เพียงวิจาร ด้วยเจโตปริยญาณ.
ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ แก่
ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ แก่ยถากัมมูปคญาณ แก่อนาคตังสญาณ ด้วยอำนาจ
ของอารัมมณปัจจัย.
เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิตก ขันธ์
ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม ย่อมเกิดขึ้น
[136] 8. อวิตักกวิจารมัตตธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักก-
สวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณ-
ปัจจัย

คือ บุคคลออกจากฌาน ที่เป็นอวิตักกวิจารมัคคธรรม ฯลฯ ออก
จากมรรค ฯลฯ ออกจากผล แล้วพิจารณาผล เพราะปรารภฌานเป็นต้นนั้น
ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก ย่อมเกิดขึ้น.

บุคคลพิจารณาเห็นขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิตก
โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลิน
ยิ่ง เพราะปรารภขันธ์นั้น ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก ย่อม
เกิดขึ้น.
เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิตก ขันธ์ที่เป็น
สวิตักกสวิจารธรรม และวิตก ย่อมเกิดขึ้น.
[137] 9. อวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกอวิจาร-
ธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ นิพพาน เป็นปัจจัยแก่มรรค แก่ผล ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม
และวิจาร ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.
บุคคลเห็นรูปด้วยทิพยจักษุ ฟังเสียงด้วยทิพโสตธาตุ รู้จิตของบุคคล
ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยจิต ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม ด้วยเจโตปริยญาณ.
อากาสานัญจายตนะ เป็นปัจจัยแก่วิญญาณัญจายตนะ ด้วยอำนาจของ
อารัมมณปัจจัย.
อากิญจัญญายตนะ เป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนะ ด้วย
อำนาจของอารัมมณปัจจัย.
รูปายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ
โผฏฐัพพายตนะ เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ ด้วยอำนาจของอารัมมณ-
ปัจจัย

ขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ แก่เจโต-
ปริยญาณ แก่ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ แก่ยถากัมมูปคญาณ แก่อนาคตังสญาณ
ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.
เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร ขันธ์ที่เป็น
อวิตักกอวิจารธรรม ย่อมเกิดขึ้น.
[138] 10. อวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจาร-
ธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ พระอริยะทั้งหลายออกจากฌาน ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม ฯลฯ
ออกจากมรรค ฯลฯ ออกจากผล พิจารณาผล, เพราะปรารภฌานเป็นต้นนั้น
ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ย่อมเกิดขึ้น.
พระอริยะทั้งหลาย ย่อมพิจารณานิพพาน. นิพพานเป็นปัจจัยแก่
โคตรภู แก่โวทาน แก่มรรคที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม แก่ผล แก่อาวัชชนะ
ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.
บุคคลพิจารณาเห็นซึ่งจักษุ โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็น
อนัตตา ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะปรารภจักษุนั้น ราคะ ฯลฯ
โทมนัส ย่อมเกิดขึ้น.
บุคคลพิจารณาเห็นซึ่งโสตะ ฆานะ ชิวหา กายะ รูป เสียง กลิ่น
รส โผฏฐัพพะ หทยวัตถุ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร โดย
ความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา, ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง
เพราะปรารภโสตะเป็นต้นนั้น ราคะ ฯลฯ โทมนัส ย่อมเกิดขึ้น.

เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร ขันธ์ที่เป็น
สวิตักกสวิจารธรรม ย่อมเกิดขึ้น.
[139] 11. อวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจาร-
มัตตธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ พระอริยะทั้งหลายออกจากฌาน ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม ฯลฯ
ออกจากมรรค ฯลฯ ออกจากผล พิจารณาผล, เพราะปรารภฌานเป็นต้นนั้น
วิตก ย่อมเกิดขึ้น.
พระอริยะทั้งหลาย พิจารณานิพพาน, นิพพานเป็นปัจจัย แก่ผลที่
เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิตก ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.
บุคคลพิจารณาเห็นซึ่งจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ ฯลฯ ขันธ์ที่เป็นอวิตักก-
อวิจารธรรม และวิจาร โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะปรารภจักษุเป็นต้นนั้น วิตก ย่อมเกิดขึ้น.
เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจารวิตกย่อมเกิดขึ้น.
[140] 12. อวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจาร-
มัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ นิพพาน เป็นปัจจัยแก่มรรค แก่ผล ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตต-
ธรรมและวิจาร ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.
[141 ] 13. อวิตักกอวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจาร-
ธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ พระอริยะทั้งหลาย ออกจากฌาน ที่เป็นอวิตักกอวิจารธรรม
ฯลฯ ออกจากมรรค ฯลฯ ออกจากผล ย่อมพิจารณาผล เพราะปรารภฌานเป็น
ต้นนั้น ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก ย่อมเกิดขึ้น.
พระอริยะทั้งหลาย พิจารณานิพพาน. นิพพาน เป็นปัจจัยแก่โคตรภู
แก่โวทาน และวิตก ฯลฯ แก่มรรคที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก แก่ผล
ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก แก่อาวัชชนะ และวิตก ด้วยอำนาจของ
อารัมมณปัจจัย.
บุคคลพิจารณาเห็นซึ่งจักษุ โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์
เป็นอนัตตา เพราะปรารภจักษุนั้น ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก
ย่อมเกิดขึ้น.
บุคคลพิจารณาเห็นซึ่งโสตะ ฯลฯ โผฏฐัพพะ หทยวัตถุ ฯลฯ ขันธ์ที่
เป็นอวิตักกอวิจารธรรม และวิจาร โดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็น
อนัตตา เพราะปรารภโสตะเป็นต้นนั้น ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และ
วิตก ย่อมเกิดขึ้น.
[142] 14. อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม
เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร ขันธ์
ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ย่อมเกิดขึ้น.
[143] 15. อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวัตักกอวิจารธรรม
เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจารมัตตธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร วิตก
ย่อมเกิดขึ้น.
[144] 16. อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม
เป็นปัจจัยแก่อวิตักกอวิจารธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ ขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร เป็นปัจจัยแก่เจโต-
ปริยญาณ แก่ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ แก่ยถากัมมูปคญาณ แก่อนาคตังสญาณ
ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.
เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร ขันธ์ที่เป็น
อวิตักกอวิจารธรรม ย่อมเกิดขึ้น.
[145] 17. อวิตักกวิจารมัตตธรรม และอวิตักกอวิจารธรรม
เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม ด้วย
อำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นอวิตักกวิจารมัตตธรรม และวิจาร ขันธ์
ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก ย่อมเกิดขึ้น.
[146] 18. สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม
เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก ขันธ์
ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม ย่อมเกิดขึ้น.

[147] 19. สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม
เป็นปัจจัยแก่อวิตักกวิจารมัตตธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก วิตก
ย่อมเกิดขึ้น.
[148] 20. สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม
เป็นปัจจัยแก่อวิตักกอวิจารธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ ขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก เป็นปัจจัยแก่เจโต-
ปริยญาณ แก่ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ แก่ยถากัมมูปคญาณ แก่อนาคตังสญาณ
ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.
เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก ขันธ์ที่เป็น
อวิตักกอวิจารธรรม ย่อมเกิดขึ้น.
[149] 21. สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม
เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจารธรรม และอวิตักกวิจารมัตตธรรม ด้วย
อำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ เพราะปรารภขันธ์ที่เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก ขันธ์ที่
เป็นสวิตักกสวิจารธรรม และวิตก ย่อมเกิดขึ้น.

3. อธิปติปัจจัย


[150] 1. สวิตักกสวิจารธรรม เป็นปัจจัยแก่สวิตักกสวิจาร-
ธรรม ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย